แชร์
ด้วยพลังแห่งรัก
นิทรรศการ ด้วยพลังแห่งรัก จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๗ พรรษา ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๒ เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจในด้านต่างๆ นับตั้งแต่ทรงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระบรมราชินี ตลอดระยะเวลาเกือบ ๗๐ ปี ด้วยพลังแห่งรักที่มีต่อแผ่นดินและประชาชนชาวไทยโดยแท้
นิทรรศการนำเสนอพระราชประวัติสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงตั้งแต่เสด็จพระราชสมภพ ทรงพระอักษรที่โรงเรียนราชินี โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ ซึ่งอยู่ใกล้ตำหนักของหม่อมเจ้านักขัตรมงคลที่ถนนกรุงเกษม และการทรงพระอักษร เพื่อเตรียมเข้าศึกษาในวิทยาลัยดนตรีที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ณ เมืองฟงแตนโบล ชานกรุงปารีส เป็นครั้งแรกที่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงได้ทรงพบกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ (พระยศในขณะนั้น) จากนั้นจึงได้เสด็จฯ เยือนประเทศฝรั่งเศสอีกหลายครั้ง จนกระทั่งทรงคุ้นเคยกับครอบครัวของหม่อมเจ้านักขัตรมงคล โดยเฉพาะหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ ซึ่งเป็นที่ต้องพระราชอัธยาศัย
วันที่ ๑๙ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๔๙๒ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหมั้นหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ด้วยพระธำมรงค์องค์เดียวกับที่สมเด็จพระราชบิดาทรงหมั้นสมเด็จพระราชชนนี ก่อนที่ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสพระราชทานตามแบบโบราณราชประเพณี ณ วังสระปทุม วันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๓ สัญลักษณ์แห่งรักที่ทั้งสองพระองค์ทรงมีต่อกันเป็นอย่างดี ปรากฏผ่านบทเพลงพระราชนิพนธ์ และภาพวาดฝีพระหัตถ์
“…ตอนสิบเจ็ดที่ได้มาเป็นพระราชินี ยังไม่มีความรู้อะไรเลย ก็ได้พระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงดูแลสั่งสอนมาตลอดว่าสิ่งใดควรทำไม่ควรทำบ้าง ทรงสอนให้ข้าพเจ้ารู้จักว่าการที่จะเป็นพระราชินีของไทยจะต้องวางตนอย่างไรบ้าง และมีหน้าที่อย่างไร…”
พระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา วันที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๔
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปทรงเยี่ยมราษฎรครบทุกภาคทั่วประเทศ เพื่อทอดพระเนตรชีวิตความเป็นอยู่และการทำมาหากินของราษฎรด้วยพระองค์เอง แล้วจึงมีพระราชประสงค์ที่จะทรงช่วยราษฎรให้พึ่งพาตนเองได้ อันเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนตามแนวพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งภายหลังก่อให้เกิดโครงการในพระราชดำริต่างๆ เป็นจำนวนมาก
หนึ่งในโครงการในพระราชดำริที่สำคัญคือการก่อตั้ง มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อช่วยเหลือราษฎรให้มีรายได้เสริมจากงานหัตถกรรมหลากหลายชนิด ทำให้งานฝีมือที่หายาก
เหล่านี้ยังคงอยู่คู่แผ่นดินไทยสืบมา และเผยแพร่ความงดงามของผ้าทอพื้นบ้านให้เป็นที่ประจักษ์แก่ชาวไทยและชาวโลก